15 อาชีพออนไลน์ ทำเงิน ปี 2022 จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น มีอิสระมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยขน์กับชีวิตมากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันล่าสุดก็มีอาชีพเกิดใหม่มากมายไม่ว่าจะเป็น การทำ Affiliate Marketing , การเทรดคริปโตอยู่บ้าน หรือจะเป็นการนั่งเขียนบทความออนไลน์ตามร้านกาแฟ และอีกมากมาย ที่เราสามารถศึกษาและนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้ แถมยังช่วยเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าด้วย
การปรับชีวิตให้ตามทันกระแสของโลกที่กำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันหยุด จะช่วยให้คุณสามารถทุ่นแรงที่ต้องใช้ในการทำงานได้และสามารถอยู่รอดในโลกอนาคต แค่ได้เริ่มต้นก็ถือว่าเราได้พัฒนาแล้วค่ะ อยากทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองคลิก
สารบัญเนื้อหา
- อาชีพออนไลน์ ยุค 4.0 คือ
- 1. ขายของ Online
- 2. Online Educator
- 3. YouTuber
- 4. Blogger
- 5. Web Designer
- 6. SEO Specialist
- 7. Freelancer
- 8. ทำ Affiliate
- 9. นักเทรดคริปโต
- 10. ขาย NFT
- 11. นักเขียนบทความออนไลน์
- 12. Online Consultant
- 13. Dropshipper
- 14. Online Marketer
- 15. Podcaster
- ข้อดีของการทำอาชีพ Online ยุค 4.0 คือ
- สรุปเรื่องราวของ อาชีพออนไลน์ ยุค 4.0
อาชีพออนไลน์ ยุค 4.0 คือ
อาชีพออนไลน์ คือ การทำงานและการทำธุรกิจผ่านทางอินเตอร์เน็ท ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้าแบบทั่วๆไป หรือจะเป็นการขาย สินค้าแบบดิจิตอลโปรดักท์ ไปจนถึงการหาลูกค้าออนไลน์ การให้บริการต่างๆผ่านระบบออนไลน์ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น อาชีพแม่ค้าขายของออนไลน์
ซึ่งก่อนหน้านี้เรารู้จักแค่อาชีพเดียวเนี่ยล่ะ ที่สามารถสร้างรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่ ณ ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปอีกขั้น มีอาชีพออนไลน์แตกแขนงออกมาเยอะมาก บางอย่างก็ใกล้ตัวสุดๆเพียงแต่เราไม่เคยจะสนใจมัน มาดูกันดีกว่าว่าอาชีพออนไลน์ ทำเงิน แบบไหนจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
1. ขายของ Online
ทุกคนคงรู้จักอาชีพนี้กันดี ต้องขยัน อึด และถึกมากสำหรับการขายของออนไลน์ ต้องพร้อมตอบคำถามลูกค้าเกือบจะ 24 ชั่วโมง แล้วก็ต้องคอยอัพเดทสินค้าทำการโปรโมทอย่างสม่ำเสมอ ส่งของห้ามตกหล่น ต้องชอบพูดคุยกับลูกค้า และอดทนกับความจุกจิกของการซื้อขายได้ สามารถทำเงินได้เร็วเมื่อขายสินค้าได้ สินค้าที่นิยมขายกันก็มีตั้งแต่เครื่องสำอาง อาหาร เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน ทุกอย่างที่จะจินตนาการได้ เราสามารถเริ่มจากการขายสินค้ากันที่ Marketplace อย่างเช่น
อีกวิธีคือการสร้างเว็บไซท์เอาไว้ขายของเอง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเช่นกัน การขายสินค้าออนไลน์ดีตรงที่ประหยัดต้นทุนค่าเช่าร้าน ซึ่งเป็น Fix Cost ใหญ่ที่อาจทำให้ธุรกิจของเราไม่โตได้
ตัวอย่าง 1 แม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ สไตล์แฮนเมด งานครีเอทสุดๆ มาดูกันค่ะ
ตัวอย่าง 2 ร้านขายแพลนเนอร์สุดน่ารัก Ondadesk ช่วยจัดระเบียบชีวิตได้ดีสุดๆ ไปเลยค่ะ
ตัวอย่าง 3 ร้านขายอุปกรณ์เพื่อผู้ป่วย ร้านนี้มีทั้งหน้าร้าน Offline และร้าน Online ช่วยกันขายทั้งสองทางไปเลยค่ะ
2. Online Educator
การเป็นเจ้าของกิจการออนไลน์แบบที่เรียกว่า ครูสอนออนไลน์ ที่เน้นการขายสินค้าแบบ infoproduct หรือสินค้าที่มาจากความรู้และประสบการณ์ของเราเอง อย่างเช่น การสร้างคอร์สเรียนออนไลน์ หรือจะเป็นการรับจ้างสอนตามสถานที่ต่างๆ เหมาะมากกับคนที่มีความรู้เยอะเป็นพิเศษและอยากจะแบ่งปันสิ่งที่รู้ให้กับคนในสังคม ยกตัวอย่างเช่น ครูสอนภาษาอังกฤษ ครูสอนดนตรี หรือจะเป็นคนที่มีสูตรขนมและอาหารอร่อยๆ แล้วอยากจะถ่ายทอดให้คนอื่นได้รู้ ไปจนถึงคนที่มีความรู้ทางด้านงานอาร์ท เช่น สอนถ่ายรูป สอนทำกราฟฟิค สอนทำเว็บ
ลองฝากโปรไฟล์ แล้วก็หางานสอนพิเศษ งานติวเตอร์ออนไลน์ได้ที่นี่จ้า >>>https://bestkru.com/pro/
ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบศึกษาค้นคว้าข้อมูลในด้านเทคโนโลยีด้วยก็เหมาะเลย เพราะจะทำให้เราสามารถโปรโมทสินค้าได้มากขึ้นช่วย อย่างเช่นความรู้เรื่องการทำเว็บไซท์ การเขียนบทความ SEO หรืออาจจะมีความรู้ด้าน Marketing Online ที่จะทำให้แบรนด์ที่เราสร้างนั้นไปได้ไกล วิธีนี้อาจจะยากและต้องใช้เวลามากหน่อยในการผลิตสินค้าแต่เมื่อไหร่ที่เรามีฐานแฟนคลับหรือลูกค้ามากพอ และสินค้าที่เราทำตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น ก็สามารถทำเงินได้เช่นกัน
3. YouTuber
สำหรับคนที่เป็นสายบันเทิง ชอบความตลก มีความฮากับชีวิต การทำ Youtube น่าจะเหมาะกับคุณสุดๆ ทำ Video Content ในเรื่องที่เราสนใจ ถนัด และง่ายต่อการทำทุกๆวัน เปิดช่องให้สามารถรับเงินจาก Youtube ได้ ยิ่งวิดีโอของเรามียอดวิวมากเท่าไหร่ รายได้ของเราก็จะมากขึ้นตาม เป็นได้ทั้งสายบันเทิง ทำรายการสนุกๆ สาย Inspiration, Motivation หรือจะเป็นสายให้ความรู้ เช่น สอนการทำอาหาร สอนทำขนม สอนร้องเพลง เล่นดนตรี ได้หมดทุกอย่างเลย
ให้ลองจินตนาการเหมือนว่าเรากำลังทำรายการทีวีรายการหนึ่ง แล้วเราอยากทำรายการอะไรให้ผู้ชมของเราดู เค้าจะได้สาระอะไรจากรายการของเรา กลุ่มคนดูคือใคร มีพฤติกรรมแบบไหน และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือความต่อเนื่องในการอัพคลิป การใช้ Keyword ในการตั้งชื่อ และคำที่ใช้สำหรับการค้นหา ถ้าเราศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกสักหน่อย ไม่ว่าจะทำอะไรก็รับรองว่ารุ่ง
รายได้ของการทำ YouTube จะมาจาก 2 ทางคือจากทาง YouTube เอง และจาก Sponsor ที่สนใจร่วมงานกับเรา
ตัวอย่าง YouTuber สายบิวตี้สนุกๆ >>> www.youtube.com/miudastyle
4. Blogger
บล็อกเกอร์ก็เป็นอาชีพได้ อย่างที่เห็นกันเยอะๆเลยก็เช่น บล็อกเกอร์สายอาหาร สายท่องเที่ยว บิวตี้บล็อกเกอร์สายสวยแต่งหน้า เป็นต้น บางคนก็รายได้ดีเชียวล่ะ เป็นอาชีพที่น่าสนใจนะ ไม่ต้องห่วงหรอกว่ามีคนทำเยอะแล้ว เราแค่ต้องสร้างความแตกต่างให้มันไม่เหมือนกับที่เค้าทำกันในตลาด แล้วก็ต้องขยันกว่าทุกๆคน มีการสร้างแบรนด์ดิ้งที่ชัดเจน มีเอกลักษณ์ มีแผนงานที่ชัดเจนและผลิตงานอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่ต้องมีคือ Website ที่เอาไว้เก็บข้อมูลเป็นหลักและโซเชี่ยลอย่าง Facebook, Instagram, Youtube, Twitter ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเรา
การเป็นบล็อกเกอร์นั้นสามารถทำรายได้ได้ 2 แบบคือ
4.1.สร้างบล็อก ทำรายได้จาก Google Adsense
สิ่งที่บังคับคือเราต้องมีเว็บไซท์ของตัวเอง ซึ่งต้องอยู่บน Platform ที่เป็นมิตรกับ Google ด้วย เราแนะนำให้ใช้ WordPress ดูวิธีสร้างเว็บไซท์จาก WordPress ได้ที่นี่ จากนั้นก็สร้างบทความที่มีคุณภาพไว้ในเว็บเยอะๆ มีการอัพบทความอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นเราก็สมัคร Google Adsense รอการอนุมัติจากกูเกิล แล้วเราก็ทำพื้นที่สำหรับโฆษณาของกูเกิลไว้บนเว็บไซท์ของเรา หาคนเข้ามาดูที่เว็บไซท์เราเยอะๆ เพียงเท่านี้เราก็สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้แล้ว
4.2 Sponsor
หลักการคล้ายๆกับการเป็น YouTuber เลย ถ้าเว็บบล็อกของเรามีบทความที่ติดอันดับบนกูเกิล มีลูกเพจเฟซบุ๊คตามเป็นจำนวนมากๆ มีแฟนคลับเข้ามาอ่านเป็นประจำ ก็เป็นไปได้ว่าวันหนึ่งอาจจะมีสปอนเซอร์ติดต่อเข้ามาเพื่อให้เราเขียนบทความให้กับสินค้าของเค้าในสไตล์ของเรา เพราะเราสามารถทำให้คนเชื่อมั่นในสินค้านั้นๆได้ และทำให้สินค้าของเค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ซึ่งการจะเป็น Blogger นั้นอยากให้เริ่มจากใจรักเป็นอันดับแรก ทำเพราะชอบในเรื่องราวเหล่านั้นจริงๆ จะทำให้เราอยากสร้างผลงานขึ้นมาเรื่อยๆโดยที่ไม่ท้อไปก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ตัวอย่าง Blogger สายท่องเที่ยว >>> amazingcouple.net
ถ้าอยากรู้รายละเอียดแบบเจาะลึกว่าจะเป็นบล็อกเกอร์ต้องเริ่มต้นอย่างไร ตามมาทางนี้เลยจ้า มีบทสัมภาษณ์จากบล็อกเกอร์ตัวจริงด้วยนะ
5. Web Designer
นักออกแบบเว็บไซต์ คือ คนที่ต้องออกแบบหน้าตาของเว็บให้สวยงาม ออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งานให้ใช้งานง่าย รู้ว่าปุ่มควรอยู่ตรงไหนที่จะเพิ่มยอดขายได้ เข้าใจโครงสร้างของงานเว็บทั้งหมด และอีกหลากหลายรายละเอียด ซึ่งขอบอกเลยว่าอาชีพนี้ก็สร้างรายได้ดีไม่แพ้อาชีพไหนๆ เลยนะ อย่างของปลาเองก็จัดอยู่ในอยู่ในประเภทนี้ค่ะ ทำงานออนไลน์ 100% คุยกับลูกค้าผ่านไลน์ พอทำเสร็จก็แค่ส่งลิ้งเว็บให้ลูกค้าเอาไปใช้ต่อ แค่ไม่ต้องออกเดินทางไปนู่นมานี่ ก็ช่วยเพิ่มเวลาทำงานและรับงานได้มากขึ้นแล้ว นอกจากจะรู้เรื่องการออกแบบเว็บแล้ว เรายังต้องรู้วิธีสร้างเว็บไซต์ด้วยถึงจะดี เพราะเราจะสามารถรับงานแบบ Full Service ได้ ลูกค้าอยากได้อะไรก็ทำให้ได้หมด และแน่นอนว่าราคาต่อโปรเจ็กท์ก็แพงขึ้นตามฟังก์ชั่นที่ลูกค้าต้องการนั่นเอง
ถ้าใครมีอาชีพเป็นนักออกแบบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ โปรดักท์ดีไซน์เนอร์ หรือนักออกแบบสายอื่นๆ ก็สามารถเป็นนักออกแบบเว็บไซต์ได้เช่นกัน เพราะมีความรู้ด้านออกแบบอยู่แล้ว เราจะมีความเข้าใจในด้านการวางองค์ประกอบ การใช้สี การใช้ประสบการณ์ในการดูงานว่าใช้งานได้ง่ายหรือยัง เพียงแค่เราต้องเรียนและฝึกฝนสกิลการทำเว็บเพิ่ม ก็จะช่วยให้เราเข้ามาทำงานสายนี้ได้ อาจจะเหนื่อยหน่อยในช่วงแรกที่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ แต่บอกเลยว่าคุ้มค่า เพราะไม่ว่ายังไงโลกอนาคตก็คงหนีไม่พ้นโลกออนไลน์แบบ 100% แน่นอน อย่างที่เราเห็นกันตอนที่เจอกับสถานการณ์โควิดนั่นแหละ ซึ่งมันอาจจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ร้ายแรงกว่านั้นขึ้นมาอีกก็เป็นได้
ตัวอย่าง Web Designer รับออกแบบและทำเว็บไซต์ >>> plaradise.com
6. SEO Specialist
ใครถนัดทำงานกับฝั่ง Google ขอเชิญทางนี้เลยค่ะ ตอนนี้หลายๆ คนอาจจะเหนื่อยกับการใช้งานโซเชี่ยลอย่างเช่น Facebook และ Instagram กันแล้ว เพราะยิ่งใช้ลูกค้ายิ่งหด ค่าโฆษณาก็แพงขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นใครกำลังสนใจสายงานเว็บและการทำ SEO ถือว่าคิดถูกแล้วค่ะ SEO มาจากคำว่า Search Engine Optmization หรือจะแปลกันง่ายๆ แบบที่ทุกคนเข้าใจก็คือ การทำคอนเท้นหรือทำหน้าเว็บให้ติดเสิร์ช Google ในหน้าแรกนั่นเอง ซึ่งข้อดีก็คือ ลูกค้าจะเดินเข้ามาหาเว็บเราเองโดยไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท คอนเซ็ปท์ดูดีมากเลยเนอะ แต่ๆๆๆ มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ น่ะสิ
เพราะฉะนั้น คนที่จะมาเป็น SEO Specialist ได้ก็ต้องมีประสบการณ์มาพอสมควร และทำงานมาอย่างหนักเลยล่ะ กว่าจะรู้ว่าวิธีไหนทำแล้วเวิร์คหรือไม่เวิร์ค และแน่นอนว่าเมื่อมันทำยาก คนทำเป็นจริงๆ ก็มีน้อยตามไปด้วย ค่าตัวก็แพงขึ้นตามเช่นกัน ใครอยากมาทางสายนี้ ปลาแนะนำให้ไปอ่านหลักการทำ SEO แบบเข้าใจง่ายที่นี่เลย ตัวจริงในวงการมาก และสำหรับคนที่อยากจริงจังก็ซื้อคอร์สเรียนไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวเสียดายเงิน เพราะปลาก็เรียนกับทางคุณวีเนี่ยล่ะ ทุกคนถึงได้มาเจอกับบทความนี้ของปลา คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปแน่นอนค่ะ
7. Freelancer
งานรับจ้างอิสระก็สามารถทำให้เป็นงานออนไลน์ได้เช่น การหางานออนไลน์ผ่าน Social อย่างเช่น Behance, Dribbble สำหรับเหล่าดีไซน์เนอร์ หรือส่งงานกันออนไลน์ด้วยการอัพโหลดงานผ่าน Google Drive เว็บ wetransfer หรือจะใช้ dropbox ก็ได้ ส่วนอาชีพที่สามารถเป็น Freelance ก็มีหลากหลาย ตัวอย่างเช่น คนที่มีอาชีพเป็น Web Developper, Graphic Designer, Film Maker ช่างภาพ ซึ่งงานฟรีแลนซ์บางทีมันได้เงินไม่เยอะเท่าที่เราลงแรงเหนื่อยไป
แถมยังต้องยอมตามใจลูกค้า เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแล้วทำให้จบงานยากอีก ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการตั้ง Position สไตล์งาน และความน่าเชื่อถือของเราให้ดูเป็นมืออาชีพซะตั้งแต่ตอนแรก ด้วยการทำ website ที่เป็นแบรนด์ของเราเองแล้วก็สร้าง Portfolio ออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้ายอมรับและเชื่อใจที่จะร่วมงานกับเราและยินดีจ่ายเงินตามราคาค่าแรงที่เราตั้งไว้
8. ทำ Affiliate
การทำ Affiliate ก็คือ การเป็นนายหน้าขายสินค้าให้กับแบรนด์ ร้านค้า แอพลิเคชั่น โดยการสร้างคอนเท้นท์ในรูปแบบต่างๆ จากนั้นก็เอาลิ้งค์ที่เราไปสมัคร Affiliate ไว้ เอามาวาง เมื่อกลุ่มลูกค้าเกิดความสนใจในตัวสินค้าแล้วคลิกซื้อผ่านลิ้งค์ที่เราวางไว้ เราก็จะได้เงินค่าคอมมิชชั่นตามที่เค้ากำหนดไว้ให้ ข้อดีคือ เราไม่ต้องสต๊อกสินค้า แพ็คของ ส่งของ ด้วยตัวเอง ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ
ตัวอย่างแอพลิเคชั่นที่ให้ทำ Affiliate
Youpik
แอพขายสินค้า คล้ายๆกับ Lazada ที่นี่จะไม่เน้นการยิงแอดโฆษณา แต่จะเน้นให้สมาชิกผู้ใช้งานไปแนะนำให้เพื่อนมาสมัครใช้แอพ และซื้อสินค้าผ่านแอพแทน คนแนะนำก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น คนซื้อของก็จะได้เงินคืน และได้สินค้าที่ราคาถูกกว่าราคาตลาด แถมยังส่งให้ถึงบ้าน
ใครที่สนใจหารายได้เสริมกับ Youpik คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ รหัสแนะนำของปลาคือ 127901 ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ
อ่านเพิ่มเติมการทำ Affiliate อย่างละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ
9. นักเทรดคริปโต
ในยุคนี้ ใครๆ ก็พูดถึงการลงทุนในบิทคอยน์ และเรื่องราวเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี ที่ถือเป็นโลกการเงินยุคใหม่ที่กำลังมาแทนที่การใช้เงินในรูปแบบเดิมๆ และด้วยมูลค่าของเหรียญบิทคอยน์เอง ที่ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ก็มีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 10 เท่าและมีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจการลงทุนในคริปโตกันมากขึ้น ในเมืองไทยเองก็เป็นที่นิยมด้วยเช่นกัน ซึ่งการลงทุนทำกำไรในคริปโตนั้น สามารถทำเงินได้จริง แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินสูงด้วยเช่นกัน แนวว่า High Risk High Return
คนที่เทรดคริปโตเป็นอาชีพเลยก็มีอยู่ไม่น้อย รายได้ก็ไม่ธรรมดาเลยล่ะ ซึ่งก็ต้องเป็นคนที่มีความรู้ทางด้านโลกคริปโตสูง มีการจัดการทางการเงินที่ดี มีหลักการและมีวินัยในการเทรด ที่สำคัญเลยคือ ประสบการณ์ที่ต้องใช้เวลาสั่งสมมาระยะหนึ่ง กว่าที่จะเข้าใจและสามารถเทรดทำกำไรได้ สนใจเปิดบัญชีลงทุนคริปโตกับไบแนนซ์ คลิก
ศึกษาคริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มเติม
10. ขาย NFT
อาชีพนี้เหมาะกับศิลปิน นักวาดภาพประกอบ ที่ชอบสร้างสรรค์ผลงานสวยๆ ออกมา บางคนอาจทำไว้โชว์เป็นผลงาน หรือ Portfolio เฉยๆ แต่วันนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว เราสามารถนำผลงานศิลปะที่เราทำขึ้น ไปขายในรูปแบบของ NFT (Non Fungible Token) ได้ เราสามารถตั้งราคาขายได้ตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักล้าน ใช่ค่ะ มีคนทำขายได้จริงๆ อย่างเช่น Beeple ที่เป็นศิลปินคนแรกที่ขาย NFT ได้ในราคาสูงถึง 69 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และยังมี Bored Ape Yacht Club, ที่ดังมากๆ ณ ขณะนี้
เราสามารถวาดภาพด้วยมือ หรือจะใช้โปรแกรมต่างๆ สร้างสรรค์ผลงานออกมา แล้วก็เอาไป Mint ขายบนแพลตฟอร์ม opensea , ได้เลย แล้วก็โปรโมทตามช่องทางต่างๆ เช่น Facebook Group, Twitter, Instagram ใครมีไอเดียดีๆ ให้รีบทำเลยค่ะ เวลาไม่เคยคอยใคร ถ้าเราตั้งใจ ต้องขายได้แน่นอน
ดูวิธีทำเงินกับ NFT คลิก
11. นักเขียนบทความออนไลน์
อาชีพนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด บทความจะมาคู่กับงานเว็บไซต์ เพราะว่าเวลาที่มีเว็บแล้ว ก็ต้องมีบทความให้ความรู้ประกอบกันไป ถึงจะสามารถปิดการขายลูกค้า และช่วยเพิ่มการจดจำแบรนด์ได้ ถ้าหากว่าเราเขียนเนื้อหาดี มีประโยชน์ อ่านง่าย มีสำนวนภาษาที่ตรงกับกลุ่มลูกค้า ก็จะทำให้บทความนั้นๆ ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนที่มีความรู้เรื่อง SEO ประกอบไปด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะจะช่วยให้เราเขียนคอนเท้นท์ที่ถูกหลักการ ช่วยเพิ่มโอกาสให้บทความของเราติดหน้าแรก Google ได้ง่ายขึ้นด้วย
นอกจากนี้แล้วการเขียนบทความ ยังสามารถทำได้ทุกแนว ทุกประเภทแบบไม่มีข้อจำกัดด้วย แล้วยังสามารถต่อยอดการเขียนบทความเพื่อใช้หารายได้ในรูปแบบอื่นๆ ได้อีก
12. Online Consultant
ที่ปรึกษาออนไลน์ อาชีพนี้ก็น่าสนใจตรงที่ว่าเราสามารถใช้ความรู้เฉพาะทางของเรามาให้คำแนะนำกับคนที่ต้องการความช่วยเหลือได้ ซึ่งจะจัดอยู่ในประเภทการให้บริการ อย่างเช่นการให้คำปรึกษาเรื่องการสร้างแบรนด์ เรื่องบัญชี เรื่องการเงิน ไปจนถึงการให้คำแนะนำเรื่องปัญหาสุขภาพจิต เป็นต้น
ซึ่งเราอาจจะใช้การสร้างแบรนด์และเว็บไซท์ให้เราดูน่าเชื่อถือ และหาลูกค้าออนไลน์ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารกับลูกค้า อย่างเช่น การวิดีโอคอลผ่าน Skype, Line, Facebook เพื่อให้คำปรึกษากับลูกค้า นอกจากนี้เรายังสามารถสร้างเอกสารคู่มือ ข้อแนะนำ ให้เป็นแบบ Digital Product ได้อีกด้วย
ตัวอย่าง ที่ปรึกษาด้านการสอนทำเว็บไซต์และ SEO >>> https://padveewebschool.com/
ที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต >>> https://prsinsure.com/
13. Dropshipper
ถ้าใครชอบขายของออนไลน์แต่ไม่อยากลงทุนสต็อคสินค้าก็แนะนำวิธีนี้เลย หน้าที่ของเราก็เพียงแค่ติดต่อซัพพลายเออร์ แล้วขอราคาสินค้าในราคาที่พิเศษให้กับเรา ส่วนเราก็ทำหน้าที่โปรโมทสินค้า สร้างเว็บไซท์ สร้างแฟนเพจ ให้คนมาซื้อสินค้าผ่านเรา เมื่อมีลูกค้าสนใจซื้อเราก็ส่งออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งไปที่ซัพพลายเออร์ให้เค้าส่งสินค้าไปที่ลูกค้าโดยตรง ไม่ต้องผ่านเรา รายได้ก็แบ่งเปอร์เซ็นต์กันตามที่ตกลงเอาไว้
เป็นวิธีที่สะดวกมากๆ แต่มีข้อแม้ตรงที่ว่าเราตัองรู้จักเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์บนหลาย platform แบบละเอียดยิบ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ขายสินค้าได้ ถ้าหากว่าเราอยากให้หนทางนี้ประสบความสำเร็จก็ต้องสร้างแบรนด์สำหรับขายสินค้านั้นอย่างจริงจัง ซึ่งในแบรนด์ของเรานั้นสามารถขายสินค้าหลายชิ้นที่เป็นประเภทเดียวกันได้เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น
ตัวอย่าง Dropshipper >>> ศูนย์รวมตัวแทนจำหน่ายสินค้าสำหรับสาวๆ มาดูกันจ้า
14. Online Marketer
เพื่อนๆ คนไหนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการตลาดออนไลน์ ชอบอัพเดทเทรนด์และฟีเจอร์ใหม่ๆของเทคโนโลยี เรียกว่าเป็นตัวแม่ของวงการ Marketing ล่ะก็ อาชีพนี้เข้าทางสุดๆ เราอาจจะเลือกเชี่ยวชาญซักหนึ่งแพลทฟอร์มก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Youtube, Twitter, Google, E-Mail Marketing
เราสามารถรับทำเป็นเซอร์วิสให้บริการและให้คำแนะนำกับกลุ่มบุคคลที่สนใจได้ อย่างเช่น คนที่ทำ SME คนที่ทำ Personal Branding ยิ่งในยุคนี้การทำการตลาดออนไลน์ก็ยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นทุกวัน แต่คนที่ทำในสายงานนี้มีจำกัด จึงจำเป็นอบ่างยิ่งที่จะต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้
ตัวอย่าง Online Marketer >>> https://www.thumbsup.in.th/
15. Podcaster
อาชีพน้องใหม่มาแรงในปี 2020 นี้เลย Podcast เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับฟังรายการเสียง หรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายก็ให้นึกถึงรายการวิทยุ ที่จะมีคนมาเล่าเรื่องให้เราฟัง เราจะได้ยินแค่เสียงเท่านั้นแต่จะไม่เห็นหน้า ซึ่งเราสามารถหาฟังได้ง่ายๆ จากอุปกรณ์ Apple และ Application Spotify
ในปัจจุบัน รายการบนพอดแคสที่เป็นภาษาไทยมีหลายประเภท ทั้งแบบให้ความบันเทิงและแบบที่เน้นเนื้อหาสาระ ตัวอย่างเช่น รายการสอนภาษา รายการแนะนำวิธีทำธุรกิจ รายการแนะนำวิธีการใช้ชีวิต เป็นต้น ข้อดีของรายการพอดแคส คือ เราสามารถฟังเมื่อไหร่ก็ได้ สามารถที่จะเลือกรายการตามความชอบ เปิดฟังแค่บางตอนที่สนใจ หรือจะดาวน์โหลดเก็บไว้ฟังยามที่ไม่มีอินเตอร์เน็ทใช้ก็ได้ กลุ่มผู้ฟังพอดแคสจะเป็นกลุ่มมิลเลนเนี่ยล หรือ Gen Y มากที่สุด ซึ่งจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 25-35 ปี
เราสามารถทำเงินผ่านช่องทาง Podcast ได้ด้วยการ
15.1 รับสปอนเซอร์
ถ้าหากว่าเราชอบเล่าเรื่อง คุยสนุก น่าฟัง เราสามารถทำรายการพอดแคสของตัวเองได้ จากนั้นก็ต้องพยายามสร้างฐานคนฟังที่เป็นแฟนคลับให้มากขึ้น หากรายการที่เราทำมีคุณภาพดี เนื้อหาดี มีคนติดตามเยอะมาก ก็จะมีสปอนเซอร์ติดต่อเข้ามาขอเข้าร่วมโฆษณาในรายการของเราก็เป็นได้
15.2 ขายสินค้าของตัวเอง
จริงๆ แล้ว Podcast ก็เป็นช่องทางหนื่งในการกระจายเนื้อหาไปสู่ผู้บริโภคคล้ายกับ Web blog, Youtube, Facebook Fanpage ถ้าเรามีสินค้าของตัวเองอยู่แล้ว เราก็สามารถสร้างคอนเท้นท์สนุกๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่เรามี ให้ความรู้คนฟังเพิ่มเติม แล้วใช้ช่องทางนี้ในการเพิ่มยอดขายหรือสร้างแบรนด์ดิ้งให้กับตัวเองได้อีกทาง ในทางกลับกัน ถ้าเราเริ่มทำรายการพอดแคสจากความชอบของเราแล้วทำให้มีคนติดตามหลักพัน หลักหมื่นได้ เราก็สามารถขายสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มคนฟังของเราได้เช่นกัน
ตัวอย่างรายการ Podcast ที่น่าสนใจ
Podcast พลิกวิกฤต Gen Y : เรื่องราวสารพันปัญหาของคน Gen Y
Podcast The Standard : สำนักข่าวเนื้อหาดี
ข้อดีของการทำอาชีพ Online ยุค 4.0 คือ
1.ลงทุนน้อย
ต้นทุนต่ำ เราเพียงแค่ใช้ความรู้ความสามารถของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น จะด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนเลย บวกกับแรงกาย แรงใจ และเวลาที่ได้ใช้ไป ซึ่งสามารถทำไปด้วยในขณะที่ยังคงทำงานประจำได้ ยิ่งเรามีความรู้ทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องเยอะก็ยิ่งช่วยให้ประหยัดค่าจ้างลงไปได้อีกเยอะเลย เช่น การทำเว็บไซท์ การเขียนบล็อก การตัดวิดีโอ การถ่ายภาพ การทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์
2.ฐานของลูกค้ามีไม่จำกัด
เราสามารถขายสินค้าและบริการให้กับคนทั้งโลกได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเมืองไทย หรือกรุงเทพฯเท่านั้น เพราะเราได้สร้างฐานข้อมูลไว้บนโลกออนไลน์แล้ว ที่ไหนที่มีอินเตอร์เน็ทก็สามารถเข้าถึงเราได้ทั้งนั้น อย่างเช่น งานออนไลน์ของเราจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มคนไทยที่กระจายอยู่ตามมุมต่างๆของโลกที่สนใจได้ และถ้าหากว่าเราสามารถทำงานให้เป็นภาษาอังกฤษได้ก็จะยิ่งเข้าถึงคนในระดับ Global ที่มากขึ้นอีกได้ นอกจากนี้เรายังสามารถหา ตัวช่วยต่างๆ ในการทำอาชีพออนไลน์ของเราได้ โดยการใช้เทคโนโลยี อย่างเช่น การหารูปภาพประกอบงาน การทำงานดีไซน์ การหาคนมาช่วยทำงานที่เราไม่ถนัด เช่น งานตัดวิดีโอ ทำเว็บไซท์ เป็นต้น
3.รายได้มีทั้งแบบ Active และ Passive Income
รายได้เป็นแบบ Active ก็ตรงที่เราต้องออกแรงเยอะในระยะแรก และต้องทำการ Marketing เพื่อให้มีคนรู้จักและเข้ามาซื้อสินค้า แต่เป็น Passive ตรงที่เราสามารถผลิตสินค้าเพียงครั้งเดียว แต่สามารถขายได้เรื่อยๆ สามารถสร้างผลลัพธ์ให้เราได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจเครือข่าย ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งการลงทุนในหุ้น เพียงเพื่อจะได้ Passive Income แล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถสร้าง Passive Income ได้เช่นกัน มาดูได้ที่ 10 Digital Products ยอดฮิตสำหรับการทำ Online Business
4.เราสามารถมีอิสระในการใช้ชีวิตแบบที่ใจคิดได้
เราสามารถวางแผนงานให้ตัวเองได้ว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ และทำอย่างไรโดยไม่ต้องมีคนมาสั่งให้ทำนั่นทำนี่ตลอดเวลา และยิ่งถ้าเราเซ็ทระบบออโตเมติกทุกอย่างเอาไว้ดีแล้ว อย่างเช่นการทำมาร์เก็ตติ้งโดยใช้ Youtube ที่เป็น platform ที่สามารถเรียกทราฟฟิกให้เราได้แบบอัตโนมัติ หรือจะเป็นการทำ SEO ให้เว็บของเราขึ้นอันดับในกูเกิล ก็ทำให้มีคนเข้ามาหาเราได้เรื่อย ๆเช่นกัน แม้กระทั่งการสร้างสินค้า Infoproduct แบบ Digital Download ที่เราไม่ต้องเสียเวลาแพ็คของส่งของให้วุ่นวาย ถ้าเราทำได้ตามนี้เราก็จะมีเวลามากขึ้น สามารถแบ่งเวลาไปทำในสิ่งที่อยากทำได้มากขึ้น เช่น มีเวลาให้ครอบครัว มีเวลาไปเที่ยวนานๆ หรือจะเอาเวลาที่เพิ่มขึ้นไปสร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับผู้อื่นอีกก็ได้
สรุปเรื่องราวของ อาชีพออนไลน์ ยุค 4.0
อาชีพออนไลน์ ยุค 4.0 นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์และเว็บไซท์เป็นของตัวเอง นอกเหนือไปจากการมีแอคเค้าท์บน Social และ Marketplace เพราะมันทำให้เรามีออฟฟิศเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ต้องไปเช่าที่ของคนอื่นอยู่ ซึ่งเราไม่รู้ว่าวันใดวันหนึ่งเค้าจะปรับเปลี่ยนอัลกอริทึ่มให้กลายเป็นแบบไหนบ้าง ถ้าหากว่าเรากระจายความเสี่ยงโดยการใช้ซัก 2-3 Platform ก็จะช่วยให้ธุรกิจของเรามีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ
ถ้าคุณได้เริ่มต้น อาชีพออนไลน์ แล้ว ถึงแม้ว่าวันนี้มันจะเป็นทรัพย์สินเล็กๆที่ยังไม่สร้างรายได้ในช่วงแรก แต่ถ้าคุณหมั่นดูแล ค่อยๆสร้างฐานลูกค้าของตัวเองขึ้นมา พร้อมๆกับการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเค้า และเชื่อมโยงไปยังสินค้าของคุณ รับรองว่าไม่นานสิ่งนี้จะสร้างเงินและสร้างเส้นทางชีวิตใหม่ให้คุณได้แน่นอน
สนใจทำเว็บไซต์ เพิ่มช่องทางทำเงินออนไลน์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ