ปลั๊กอิน และเครื่องมือจำเป็นสำหรับเว็บไซต์ WordPress เพิ่มประสิทธิภาพ

ปลั๊กอิน จำเป็นบน Wordpress 11

เวลาเริ่มต้นทำเว็บไซต์ หรือจะทำเว็บบล็อกเอง เราก็อยากให้เว็บของเรานั้นมีประสิทธิภาพ และมีฟังก์ชั่นครบถ้วนแบบเว็บของคนอื่น อย่างเช่น อยากมีกล่องเฟซบุ๊คที่ไซด์บาร์ อยากได้ปุ่มแชร์ไปโซเชี่ยลแบบด่วนๆ อยากทำคอนเท้นท์ SEO เป็นต้น ซึ่งนอกจากความอยากมีเพิ่มแล้ว บางครั้งเรื่องประสิทธิภาพของหลังบ้านก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องรู้ เช่น การแบ็คอัพข้อมูล การเคลียร์ข้อมูลค้างๆ การเก็บสถิติข้อมูล ที่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ไม่มีคนให้คำแนะนำซะด้วย เอาล่ะ มาทางนี้เลยจ้า เรามีทั้ง ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress และ ตัวช่วยเก็บสถิติ วิเคราะห์ข้อมูลมาแนะนำให้แล้ว อยู่ทางนี้เลย

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress

1.Sumo

ตัวนี้จะช่วยในการเพิ่มทราฟฟิก เพิ่มการแชร์คอนเท้น ทั้งจากบทความทั้งหน้า หรือจะเลือกแชร์จากรูปภาพที่เราใส่ประกอบบทความก็ได้ สามารถแชร์ออกไปได้เกือบทุกแพลตฟอร์มโซเชี่ยล ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Pinterest, Twitter, Google Plus และอื่นๆตามที่เราต้องการ

นอกจากนี้ยังช่วยเก็บอีเมล์ลิสจากคนที่แวะเวียนเข้ามาในเว็บไซต์คุณให้มากขึ้น ซึ่งตัวอีเมล์จะเป็นเหมือนรายชื่อสำคัญของลูกค้าในอนาคตของคุณเอง ดีกว่าปล่อยเค้าผ่านมาและผ่านไปเฉยๆ ข้อสำคัญอีกข้อคือปลั๊กอินตัวนี้ ติดตั้งและใช้งานง่ายมากๆ แค่คลิกไม่กี่ปุ่มก็พร้อมใช้งานแล้ว

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress 9

2.Easy Facebook Likebox

สำหรับการใช้เว็บไซต์ด้วย WordPress บาง Theme เค้าก็จะมีแค่ปุ่มไอคอนโซเชี่ยลไว้ให้กดติดตามเฉยๆ ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่เด่นและดึงดูดพอจะให้คนเข้ามากดไลค์ที่แฟนเพจเราได้ เพราะฉะนั้นลองมาติดตั้งกล่องโชว์หน้าเฟซบุ๊คกันเอาไว้ดีกว่า ให้คนสามารถเห็นความเคลื่อนไหวได้ง่ายๆ และช่วยเพิ่มยอดไลค์จากแฟนคลับให้เราได้ด้วยนะ

ขั้นตอนก็แค่เลือกที่ Appearance จากนั้นเลือก Widgets ตอนนี้เราจะเลือกให้กล่องเฟซบุ๊คไปอยู่ที่ Sidebar ต่อด้วย Add Widget จากนั้นเราก็เลื่อนขึ้นไปดูที่ Sidebar มองหา Easy Facebook Likebox คลิก drop down แล้วก็ใส่ที่อยู่ Url ของเฟซบุ๊คเราลงไป เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress 10

 

3.WhatsHelp

ตัวนี้จะเป็น Chat ที่เชื่อมกับแอคเคาท์ของเราไม่ว่าจะเป็น ไลน์ เฟซบุ๊คเมสเซ็นเจอร์ ซึ่งช่วยให้เราตอบคำถามลูกค้าได้ไวขึ้น และลูกค้าก็สามารถติดต่อเราได้เร็วทันใจเช่นกัน

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress 8

4.Yoast SEO

ปลั๊กอินนี้ดีมากตรงที่ช่วยให้การเขียนคอนเท้นท์ของเรานั้น สามารถตรงตามข้อบังคับของกูเกิล มี Checklist เป็นไฟสีเขียวและสีส้ม ถ้าเราเขียนได้ตรงตามข้อแนะนำ อย่างเช่น การกำหนดคีย์เวิร์ด การเขียนเกิน 300 คำขึ้นไป เขียนให้มี Head 2 มี Subtitle มีรูปภาพที่ใส่ ชื่อภาพและ Alt text ให้ตรงกับคีย์เวิร์ด มีชื่อ Keyword เป็นไทเทิล ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้จะช่วยให้คอนเท้นของเราติดอันดับบนหน้า Google ได้ โดยเฉพาะหน้าแรก ซึ่งมีพื้นที่ให้เราเพียงแค่ 10 อันดับเท่านั้น

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress7

ตัวอย่างวิธีใช้ Yoast SEO

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress6

ถ้าเราเขียนบทความได้ตามที่เค้ากำหนด มันจะขึ้นเป็นไฟเขียวและช่วยให้บทความนั้นๆติดอันดับได้ดีขึ้น ตามมาอ่านเพิ่มเรื่องการเขียนบทความ SEO ทางนี้เลยค่ะ 

5.Contact Form 7

ตัวนี้เป็นปลั๊กอินจำเป็นที่ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลอีเมลล์ในหน้า Contact ซึ่งเป็นที่นิยมมาก เพราะใช้งานง่าย ลูกค้าสามารถกรอกข้อมูลที่สงสัย ต้องการจะสอบถามกับเจ้าของเว็บไซต์ได้โดยตรง สำหรับต่างชาติจะนิยมมาก แต่สำหรับคนไทยอาจจะไม่จำเป็นซักเท่าไหร่ เปลี่ยนเป็นการใส่ข้อมูลการติดต่อไว้ให้เค้าแทนก็ได้เหมือนกัน

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress5

6.All in one WP

เวลาที่เราทำเว็บแล้วต้องมีการอัพเดทคอนเท้นท์ พัฒนาตัวเว็บอยู่เป็นประจำ เจ้าปลั๊กอินต้วนี้แหละ ที่จะมาใช้ช่วยแบ็คอัพข้อมูลของเราให้ครบถ้วนอยู่เสมอ ขั้นตอนแรกเลือกที่ All in one WP จากนั้นก็เลือกที่ Export ขั้นตอนต่อไปก็เลือกที่ File รอประมวลผลสักครู่ก็จะปรากฏปุ่ม Download… Size ให้เห็น เราก็แค่กดลงไปที่ปุ่มนั้นก็จะได้ไฟล์แบ็คอัพที่พร้อมใช้งาน หากเกิดกรณีไม่คาดฝันกับเว็บของเรา อย่าลืมเก็บไฟล์ไว้ในที่ปลอดภัยล่ะ และต้องแบ็คอัพไฟล์เก็บไว้อย่างสม่ำเสมอด้วยนะ

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress

7.WP Fastest Cache

Cache เป็นตัวเก็บข้อมูลช่วยให้การเข้าเว็บเดิมที่เคยเข้ามาแล้วโหลดเร็วขึ้น แต่ถ้ามี Cache เก่าๆบนหน้าเว็บเยอะ จะทำให้เว็บโหลดช้าลงและอาจทำให้คนที่กำลังเข้ามาที่หน้าเว็บไม่อยากรอ แล้วก็ออกจากเว็บไซต์ของเราไปเลยอย่างเงียบๆ เพราะฉะนั้น WP Fastest Cache จะช่วยเคลียร์ Cache เก่าๆที่ค้างอยู่บนเว็บเราให้หายไปได้ และช่วยให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น ผู้มาเยี่ยมชมก็อารมณ์ดีขึ้น แฮปปี้กันทั้คู่ อ่านวิธีใช้งานอย่างละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress3

8.Google Analytic Dashboard

ถ้าใช้งาน Google Analytic เป็นประจำอยู่แล้ว ปลั๊กอินตัวนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้เป็นอย่างยิ่ง เพราะมันจะโชว์สถิติข้อมูลพื้นฐาน อย่างเช่น จำนวน Users, Page Views และ Bounce Rate เป็นต้น บนหน้า Dashboard ของเราเลยโดยที่เราไม่ต้องไปเข้าเว็บ Google เพื่อเช็คข้อมูลอีกรอบ แต่ถ้าเราอยากได้ข้อมูลเชิงลึกเช่น Behavior Flow ก็ต้องเข้าไปเช็คจากเว็บหลักอยู่ดีค่ะ

วิธีติดตั้งปลั๊กอิน

เข้าไปที่ Dashboard เลือก Plugins เลือกที่ Add New จากนั้นก็พิมพ์ชื่อปลั๊กอินที่ต้องการลงไปที่ช่อง Search เมื่อเจอปลั๊กอินที่ต้องการ จากนั้นก็กด install now รอโหลดจนเสร็จ ค่อยกด Activate เป็นอันเรียบร้อย พร้อมใช้งาน

ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress2

 

ส่วนของการเก็บสถิติข้อมูล

Google Analytic

เราควรติดตั้งเอาไว้เลยตั้งแต่ตอนที่ Launch web เพื่อเก็บสถิติคนที่เข้ามา ในระยะแรกอาจจะไม่ค่อยเห็นอะไรมาก แต่ถ้าให้เวลาสักพัก 3-6 เดือนอย่างต่ำ ทำคอนเท้นท์ให้ดี สถิติคนเข้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอันดับก็จะดีขึ้นด้วย เจ้าตัว Google Analytic นี้มันดีขนาดที่ว่าเก็บข้อมูลคนที่เข้ามาได้ละเอียดมาก มีทั้งจำนวนยอดวิวต่อวัน จำนวนคนที่เข้ามา จำนวนคนที่เข้าแล้วออก เค้าใช้เวลาเฉลี่ยกันกี่นาทีบนเว็บของเรา สามารถดูพฤติกรรมการใช้งานของผู้เยี่ยมชมได้ว่าเค้าเข้ามาจากหน้าไหนบ้าง แล้วคลิกไปที่หน้าไหนต่อบ้าง ทำให้เราเห็นจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข เพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้น ตามมาดูวิธีติดตั้ง Google Analytic ที่นี่ได้เลยค่ะ

บนหน้าเว็บ Google Analytic จะสามารถโชว์ข้อมูลได้อย่างละเอียดกว่า ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มก็ไปเช็คได้ที่แถบเครื่องมือด้านซ้ายเลย

Google Search Console

ตัวนี้จะเป็นตัวจับคีย์เวิร์ดที่เริ่มขึ้นในหน้าการค้นหา และบอกจำนวนคลิก ว่ามีคนคลิกที่คำนี้เท่าไหร่แล้ว คำไหนที่มีคนเข้ามากที่สุด หน้าบทความไหนที่ติดอันดับแล้วมีคนเข้ามาเยอะๆบ้าง คำที่เราใช้มันตรงประเด็นกับสินค้าของเราหรือไม่ ตัวอย่างเช่น เว็บ plaradise.com มีคนเข้ามาจากคำที่เกี่ยวข้องกับ อาชีพออนไลน์ เยอะที่สุด ซึ่งก็เป็นคำที่เราตั้งใจใช้ เพราะอยากให้คนเห็นว่าอาชีพออนไลน์ ไม่ได้มีแค่แม่ค้าขายของเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอาชีพอื่นอีก เช่น บล็อกเกอร์ ครูที่สอนออนไลน์ ฟรีแลนซ์ ที่สามารถหาลูกค้าออนไลน์ได้จากการสร้างบล็อกและเว็บไซต์

พาร์ทนี้จะแสดงผลจำนวนการคลิกภายใน 28 วันล่าสุด ส่วนแถบด้านซ้ายคือข้อมูลอย่างละเอียด เช่น มีเว็บไหนลิงค์มาที่เว็บคุณบ้าง หน้าเพจไหนที่ถูกลิงค์เยอะสุด

จากหน้านี้จะเห็นข้อมูลว่ามีคำไหนบ้างที่ติดเสิร์ชบนกูเกิล แล้วมีคนคลิกเข้ามาดูข้อมูลที่เว็บเรา

จะเห็นว่ากูเกิลช่วยเราเก็บข้อมูลได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าเรารู้จักนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ก็จะช่วยให้เว็บของเรามีการเติบโตที่ดีขึ้น มีจำนวนผู้เข้ามาเยี่ยมชมเพิ่มได้ทุกวัน

ข้อที่ไม่ควรมองข้าม

การทำเว็บให้เป็น HTTPS

ตัวนี้เป็นการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อให้ความยืนยันกับ Google ว่าเว็บไซต์ของเรานั้นปลอดภัย มี Security สังเกตุได้จากช่องที่อยู่เว็บไซต์ด้านบน จะมีรูปแม่กุญแจสีเขียว ซึ่งจะช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ดีขึ้นด้วย การยืนยันความปลอดภัยวิธีนี้สามารถทำได้ด้วยการติดต่อไปที่โฮสติ้งที่ให้บริการ ให้เค้าเปลี่ยนจากเว็บไซต์ที่เป็น http:// แบบเดิม ให้เป็นแบบ https:// ได้ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย ส่วนใครที่อยากทำเอง อาจจะยุ่งยากสักนิดนึง แต่สามารถทำตามทีละขั้นตอนได้ต้วยวิธีนี้เลย

การทำเว็บให้เป็นแบบ Responsive

คือการทำให้หน้าเว็บไซต์นั้นแสดงผลได้บนทุกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป แท็บเล็ท และหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะปัจจุบันคนชอบเสิร์ชหาข้อมูลกันจากทุกอุปกรณ์กันมากขึ้นโดยเฉพาะมือถือ เพราะฉะนั้นข้อมูลที่แสดงผลบนเว็บของเราก็ต้องมีการออกแบบ จัดหน้าตาให้สามารถอ่านได้ง่าย และเรียบเรียงข้อมูลได้ครบถ้วนบนขนาดของหน้าจอมือถือด้วย

Responsive-Web

สรุป

นอกจากจะมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว เราก็ต้องให้ความใส่ใจดูแลเรื่องระบบการใช้งานของเว็บด้วย ซึ่ง ปลั๊กอิน จำเป็นบน WordPress และเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล เก็บสถิติ เหล่านี้ก็จะมาช่วยให้ระบบของเว็บไซต์นั้นสมบูรณ์ แล้วถ้าเราดูแลดีๆ มีฟังก์ชั่นครบ ส่วนประกอบครบ คอนเท้นท์ดี มีการพัฒนาอยู่เสมอตัวเว็บไซต์ก็จะมีประสิทธิภาพขึ้น และเติบโตไปเรื่อยๆได้ มีปริมาณผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเพิ่มขึ้น  และยังถือเป็น Digital Asset ชนิดหนึ่งที่ยิ่งระยะเวลานานยิ่งมีค่าด้วยนะ

นอกจากเรื่องปลั๊กอินก็ยังมีเรื่องส่วนประกอบต่างๆของเว็บที่ควรมี ดูเพิ่มเติมกันที่นี่เลยจ้า

สนใจสร้างเว็บไซต์และแบรนด์ตัวเองออนไลน์ คลิก